ตรวจเจอ 1 ใน 70 โรคร้ายแรง รับเงินก้อนทันที
ประกันโรคร้ายแรง “iShield 5” ไอชิลด์ 5
จ่ายเบี้ยคงที่ 5 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี อยู่ครบสัญญารับเงินคืน
“โรคร้ายแรง” แค่ได้ยินชื่อก็ว่าน่ากลัวแล้ว แต่ค่ารักษาโรคร้ายแรงนี่สิน่ากลัวยิ่งกว่า
เชื่อว่าคุณต้องเคยมีประสบการณ์ที่คนใกล้ตัวหรือคนรู้จักต้องเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมอง
ซึ่งคนที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงส่วนใหญ่ ต้องใช้เงินที่เก็บออมมาทั้งชีวิตจนหมดเพื่อมาใช้จ่ายเป็นค่ารักษา บางคนต้องไปกู้หนี้ยืมสินเนื่องจากไม่มีเงินเพียงพอ ทำให้เป็นภาระของในครอบครัว
แต่ชีวิตยังมีทางเลือก!
แค่วางแผนป้องกันด้วยแบบการทำ ประกันโรคร้ายแรง iShield 5 (ไอชิลด์ 5) จะช่วยคุณรับมือกับโรคร้ายที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงในประเทศไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ เราลองมาดูตัวอย่างค่ารักษากัน
กลุ่มโรคหัวใจ
- การรักษาด้วยการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน 250,000 บาท
- การผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ 340,000 บาท
- การตรวจด้วยการฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ 150,000 บาท
กลุ่มโรคมะเร็ง
- มะเร็งเต้านม เทคนิคการฉายรังสี 3 มิติ 215,600 บาท
- มะเร็งปอด เทคนิคการฉายรังสี 3 มิติ 184,800 บาท
- มะเร็งปากมดลูก เทคนิคการฉายรังสี 3 มิติ 220,000 บาท
ที่มา : แพ็กเกจการตรวจวินิจฉัยและการรักษาจากโรงพยาบาลชั้นนำ
ประกันโรคร้ายแรง iShield 5 ดียังไง
70 โรคร้ายแรงที่ “ไอชิลด์ 5” คุ้มครองมีอะไรบ้าง?
ระยะเริ่มต้น 20 โรค
(จ่าย 25% ของทุนประกัน เคลมได้สูงสุด 4 ครั้ง)
- การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- การผ่าตัดเอาเนื้องอกต่อมใต้สมองออก
- การผ่าตัดตับ
- การผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจโคโรนารี่ โดยการทำคีย์โฮลล์
- โรคมะเร็งระยะไม่ลุกลาม
- โรคลูปัส หรือ โรคเอสแอลอีระยะรุนแรงปานกลาง
- แผลไหม้ฉกรรจ์ชนิดรุนแรงปานกลาง
- การปลูกถ่ายลำไส้เล็ก หรือการปลูกถ่ายกระจกตา
- โรคหลอดเลือดสมองที่ได้รับการรักษาโดยวิธีใส่สายสวนเส้นเลือดบริเวณคอเพื่อถ่างขยายหลอดเลือด
- โรคระบบประสาทมัลติเพิลสะเคลอโรสิสระยะแรก
- การผ่าตัดลิ้นหัวใจผ่านทางผิวหนัง
- การสวนหัวใจเพื่อรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- โรคโปลิโอขั้นร้ายแรงปานกลาง
- โรคหนังแข็งชนิดลุกลามระยะแรก
- โรคหอบหืดรุนแรงเฉียบพลัน
- การผ่าตัดเล็กของเส้นเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้า
- การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจถาวร
- เส้นประสาทตาฝ่อและความสามารถในการมองเห็นต่ำ
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อมปานกลางถึงรุนแรง
- การผ่าตัดเอาปอดออกหนึ่งข้าง
ระยะรุนแรง 50 โรค
(จ่าย 100% ของทุนประกัน หรือจำนวนเงินที่เหลือจากการเคลมระยะเริ่มต้น)
- โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์
- โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต
- โรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- เนื้องอกในสมอง ชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง
- ตาบอด
- โรคมะเร็งระยะลุกลาม
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจ
- ตับวาย
- โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง / โรคปอดระยะสุดท้าย
- ภาวะโคม่า
- การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
- กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
- การผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยวิธีการเปิดหัวใจ
- ไตวายเรื้อรัง
- การสูญเสียการได้ยิน
- กลุ่มอาการไอเซนเมนเกอร์
- ภาวะลิ้นหัวใจติดเชื้อ
- การสูญเสียความสามารถในการพูด
- แผลไหม้ฉกรรจ์
- การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง
- การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก
- โรคของเซลล์ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว
- โรคระบบประสาทมัลติเพิล สะเคลอโรสิส
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อม
- โรคไวรัสตับอักเสบขั้นรุนแรง
- โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
- อัมพาตของกล้ามเนื้อแขนหรือขา
- โรคพาร์กินสัน
- โรคแรงดันในหลอดเลือดแดงปอดสูงแบบปฐมภูมิ
- ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง
- โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
- การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้า
- ไตอักเสบลูปูส จากโรคซิสเต็มมิค ลูปูส อิริเธมาโตซูส
- สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส
- โรคความบกพร่องในการทำงานของต่อมหมวกไตเรื้อรัง
- โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด
- การฉีกขาดของรากประสาทต้นแขน
- โรคโปลิโอ
- การผ่าตัดกระดูกสันหลังคดที่ไม่ทราบสาเหตุ
- ภาวะตับอ่อนอักเสบที่กลับเป็นซ้ำและเรื้อรัง
- โรคเท้าช้าง
- โรคถุงน้ำในไต
- โรคเนื้อเยื่อพังผืดอักเสบติดเชื้อและเป็นเนื้อตาย
- โรคหนังแข็งชนิดลุกลาม
- โรคลำไส้อักเสบเป็นแผลรุนแรง
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากวัณโรค
- โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- การติดเชื้อไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดจากการเปลี่ยนถ่ายเลือด
- โรคครอยตส์เฟลดต์-จาค็อบ
- อีโบล่า
เงื่อนไขการรับประกัน
อายุรับสมัครประกัน
iShield5 : 1 เดือน ถึง 52 ปี
จำนวนเงินเอาประกันภัย
100,000 – 5,000,000 บาท
กรณีที่บริษัทฯ จะไม่คุ้มครอง
- ระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) ประกันโรคร้ายแรง iShield จะไม่คุ้มครอง การเจ็บป่วยหรือความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นภายในระยะ เวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์
- ฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรือตามการต่ออายุ หรือตามการกลับคืนสู่สถานะเดิม หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัย ในเฉพาะส่วนที่เพิ่ม ทั้งนี้ เฉพาะในส่วนของจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
- กรณีผู้เอาประกันภัยถูกผู้รับประโยชน์ฆ่าตายโดยเจตนา
- กรณีผู้เอาประกันภัยแถลงอายุคลาดเคลื่อนไม่ถูกต้องแท้จริง และบริษัทฯ พิสูจน์ได้ว่า ในขณะทำสัญญาประกันภัยอายุที่ถูกต้องแท้จริงอยู่นอกจำกัดอัตราเบี้ยประกันภัยตามทางค้าปกติของบริษัทฯ
ข้อควรรู้
- กรณีไม่เปิดเผยความจริง หรือแถลงความเท็จ บริษัทจะบอกล้างสัญญาภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครอง หรือวันต่ออายุกรมธรรม์ครั้งสุดท้าย หรือวันกลับคืนสู่สถานะเดิม
- สภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย (Pre-existing Condition) หมายถึง สภาพใด ๆ หรือ ความเจ็บป่วยใด
– ซึ่งสาเหตุที่เคยเป็น หรือกำลังเป็นอยู่
– ซึ่งผู้เอาประกันภัยได้รู้อยู่แล้วถึงสัญญาณหรืออาการของสภาพนั้น หรือความเจ็บป่วยนั้น หรือ
– ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีข้อสันนิษฐานถึงอาการของสภาพนั้น หรือความเจ็บป่วยนั้น หรือ
– ซึ่งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือการตรวจอื่นใดที่ได้แสดงให้เห็นแล้ว ถึงสภาพนั้นหรือความเจ็บป่วยนั้นที่มีก่อนวันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญา หรือวันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุ (Reinstatement) ครั้งสุดท้าย แล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นหลังสุด - เอกสารการเรียกร้องสินไหม
1. เอกสารเรียกร้องเคลม
2. ใบรับรองแพทย์
3. ผลชิ้นเนื้อและผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
สอบถามเบี้ย | ขอแบบเสนอ
วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่อง ประกันโรคร้ายแรง โรคร้ายแรงคืออะไร แล้วมันต่างกับโรคธรรมดาตรงไหน?
คำว่าโรคร้ายแรงในเงื่อนไขของประกันชีวิตจะมีเงื่อนไขเยอะมาก ซึ่งพูดตรงๆแล้วเวลาอ่านกรมธรรม์ เชื่อว่าลูกค้าบางคนหรือว่าตัวแทนก็อ่านไม่หมดเพราะบางเรื่องเช่น คุ้มครองโรคร้ายแรง 40 ชนิด , 80 ชนิด , 130 ชนิด , 100 ชนิดมันเยอะไปหมดจนอ่านไม่ไหว แต่เงื่อนไขเหล่านี้ที่จะมาเป็นปัจจัยในการพิจารณาในการคิดเบี้ยประกันและจ่ายเงินให้กับคนที่เอาประกันสุขภาพโรคร้ายแรงเอาไว้
แล้วทำไมเราต้องทำประกันโรคร้ายแรง มีสวัสดิการแล้วจะกลัวอะไร โรคมะเร็ง โรคหัวใจ สวัสดิการสังคม สปสช. ก็รักษาให้ แล้วทำไมต้องทำประกัน
อันนี้แหละที่อยากจะบอกว่าจริงๆแล้ว ประกันโรคร้ายแรงที่แต่ละบริษัททำให้นั้น ส่วนใหญ่จะไม่จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาล แล้วจ่ายเป็นอะไร ส่วนใหญ่จะจ่ายเป็นมูลค่าตามวงเงินคุ้มครองเช่น 1ล้านบาท 2ล้านบาท 3ล้านบาท แล้วแต่ทุนประกันที่คุณเลือก
แล้วประกันแบบนี้มีประโยชน์ยังไง? มีประโยชน์เพราะประกันจะจ่ายออกมาเป็นเงินสดตามมูลค่าที่เราได้ทำประกันไว้
ถามว่าถ้าตัวเราป่วยเป็นโรคร้ายแรงจะทำงานทำการได้ไหม? แล้วสิ่งที่ขาดหายไปคืออะไร “เงิน” ที่คุณทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิตหมด เพราะคุณทำงานไม่ได้ รายได้คุณไม่เกิด ไม่ว่าคุณจะทำงานประจำ ไม่ว่าคุณจะทำงานส่วนตัว หรือว่าคุณจะเป็นฟรีแลนซ์ เพื่อนหนีหายไปหมดเพราะคุณป่วยแล้วคุณต้องรักษาตัว
เงินส่วนที่เราได้จากเคลมประกันโรคร้ายแรง จะไปทดแทนจำนวนเงินที่หายไป นี่แหละประโยชน์ของประกันโรคร้ายแรง ซึ่งก็ไม่ได้ทำงานซ้ำซ้อนกันกับประกันสุขภาพที่คุณมี
ประกันสุขภาพที่คุณมี คุณก็ใช้ในรักษาโรคร้ายแรงได้ ไม่ว่าจะประกันธรรมดา ประกันแบบเหมาจ่าย ก็ใช้รักษาโรคร้ายแรงได้หมด เพียงแต่ว่าบางครั้งอาจจะไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายนู่นนี่นั่นที่เสริมเพิ่มเติมเข้ามา เราก็นำเงินที่ได้จากการเคลมประกันโรคร้ายแรงไปใช้ได้
ถึงบอกว่าจะมีสองสิ่งที่คุณกังวล หนึ่งคือที่เราป่วยเนี่ยรักษาไม่ได้เลย สองค่าใช้จ่ายประจำที่เกิดขึ้นแต่ในละวัน แต่ละเดือน จะเอาที่ไหน ซวยซ้ำซ้อน อันนี้คือซวยสองชั้น ชั้นหนึ่งคือป่วย ชั้นสองคือเงินหมดไม่มีใช้ด้วยนี่แหละ เราถึงบอกว่าประกันโรคร้ายแรงจะมาจัดการส่วนนี้ให้คุณ
สำหรับรายละเอียดเรื่องประกันโรคร้ายแรง ก็จะมีเงื่อนไข 3 ข้อด้วยกัน
- ระยะเวลาการรอคอยของแต่ละโรคที่เราจะต้องเจอในกรมธรรม์ไม่เท่ากัน
- ก็คือระยะเวลาการเจ็บป่วยที่จะจ่ายเงิน มีระยะเริ่มต้น ระยะปานกลาง ระยะรุนแรง
- กลุ่มโรค หรือชนิดของโรคที่เป็น
นี่คือ 3 ส่วนที่จะนำมาประกอบในการพิจารณาคิดเบี้ยประกันกับคุณ เพราะฉะนั้นวันนี้ขอบอกเลยว่าไม่มีใครที่จะรู้ว่าตัวเองจะป่วยเป็นโรคอะไร แต่คุณรู้ว่าจะป้องกันมันได้อย่างไร